วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553
คุณสมบัติของนักขายที่ดี
1. การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี นักขายต้องเจอผู้คนครับ เพราะฉะนั้นมนุษย์สัมพันธ์ท่านต้องดี คำถามก็คือว่า แล้วคำว่ามนุษย์สัมพันธ์ดีนี้มันเป็นอย่างไร ผมให้ไอเดียง่าย ๆครับ ไม่ต้องไปอิงทฤษฎีอะไร คนที่ยิ้มแย้มร่าเริงนี่หละครับมีโอกาสที่จะมีมนุษยสัมพันธ์ดีบางคนเนี่ยยิ้มไม่เป็น เวลายิ้มเนี่ยต้องยิ้มมาจากตานะครับ ถ้าคนที่ยิ้มสดใสร่าเริงใคร ๆก็อยากจะเข้าใกล้ครับ เวลาเจอคนเศร้า ๆ ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้หรอกครับ แต่ถ้ายิ้มสดใสร่าเริงเมื่อไหร่ ยิ้มไปไหนก็มีแต่เพื่อนครับมีแต่คนอยากจะคุยด้วย เพราะฉะนั้นท่านต้องยิ้ม ต้องร่าเริงครับ และวิธีที่ยิ้มร่าเริง ก็คือคนมันต้องมีข้างในที่ดีนะครับ EQ ท่านต้องดีครับ
EQ ก็คือความสามารถหรือความฉลาดในการใช้อารมณ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีจะไม่มีอารมณ์นะครับ แต่ท่านเลือกใช้อารมณ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ เวลาดีใจก็ดีใจ เวลาเสียใจก็แสดงความเสียใจ แต่อยู่ในขอบเขตมารยาททั่ว ๆ ไปที่เค้าทำกัน คนที่ EQ ไม่ดี ท่านจะเห็นง่าย ๆ ถ้าดี ดีใจหายเลยสุดยอดดีจริง ๆ แต่เวลาโมโหร้ายเนี่ยไม่มีใครอยากเข้าใกล้เลยครับ เพราะฉะนั้นคนที่ EQ ไม่ดีก็จะเป็นนักขายที่ดีไม่ได้ครับ เพราะถ้าหากเกิดอารมณ์ไม่ดี ซัดลูกค้าหงอไปเลย ทำให้ลูกค้าหายไปเลย พออารมณ์ดีไปง้อเค้า เค้าสับสนนะครับคนอย่างงี้เนี่ย เพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นนักขายที่ดีครับ ต้องคำนึงถึงจิตใจของคนอื่นเค้าครับ
2. นักขายต้องมีความน่าเชื่อถือ ท่านมีไหมความน่าเชื่อถือ คำถามก็คืออะไรที่จะมองว่าเป็นคนน่าเชื่อถือ อันแรกครับท่านเป็นคนมีหลักการไหม นักขายต้องเป็นคนมีหลักการครับ ต้องอยู่กับร่องกับรอย ไม่ใช่วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง เพราะฉะนั้นนักขายต้องมีหลักการ กฎ กติกา ต่างๆ ต้องแม่นครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องกอดหลักการไปตลอดนะครับ แต่หมายความว่า เรามีหลักการนี้ เราก็ปฏิบัติตามหลักการนี้ แต่ถ้ามีเหตุให้เปลี่ยนหลักการ ท่านก็ต้องไปว่าด้วยเหตุของการเปลี่ยนหลักการก่อน ที่สำคัญคือเมื่อยึดหลักการไหนต้องทำตาม ไม่อย่างนั้น ท่านจะเป็นคนไม่น่าเชื่อถือครับ นอกจากนี้เขาอาจจะตัดสินท่านด้วยบุคลิกภาพนักขายที่หัวยุ่ง ๆ แต่งตัวไม่สุภาพเรียบร้อย ใส่รองเท้าผ้าใบไปเยี่ยมลูกค้า ก็จะทำให้ท่านขาดความน่าเชื่อถือ ต้องดูสินค้านะครับ ดูว่าสอดคล้องไหม ดังนั้นบุคลิกก็จะเป็นตัวสะท้อนความน่าเชื่อถือครับ
3. การสื่อสารเป็นเลิศ นักขายบางคนบอกว่า บางทีต้องพูดมาก ต้องพูดเก่งอันนี้ไม่จริงเลยครับ สื่อสารเป็นเลิศคือ “นักขายต้องถามเป็นครับ” เวลาที่คุณขายของ ถ้าคุณพูดน้อย คุณก็จะได้รับข้อมูลจากลูกค้ามาก แต่ถ้าคุณพูดมากคุณก็จะได้ข้อมูลน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าที่คุณพูดไป คนที่คุณคุยด้วยเค้าสนใจคุณหรือเปล่า เพราะฉะนั้นทักษะในการสื่อสารเป็นอีกเรื่อง ที่ท่านจำเป็นต้องไปถามตัวเองนะครับว่า ท่านถามเป็นไหม ท่านจับประเด็นได้ไหมว่าลูกค้าต้องการอะไร และท่านมีสติที่จะฟังไหม ไม่ใช่ว่าเหม่อลอย คุยไปแล้วก็จำไม่ได้ คุยแล้วไม่ประติดประต่อ อย่างนี้เราไม่ถือว่าการสื่อสารเป็นเลิศ
4. สุขภาพแข็งแรง นักขายบางครั้งต้องเดินทาง ต้องเจอความกดดันเยอะ ๆสุขภาพต้องแข็งแรงด้วยครับ ความคิดต้องเป็นความคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดีเราจะได้มีกำลังใจ ในการต่อสู้กับปัญหาที่มากขึ้นที่มารุมเร้านักขาย
ท่านหละครับมนุษยสัมพันธ์ดีไหม น่าเชื่อถือไหม ท่านมีทักษะการสื่อสารที่ดีหรือยัง สุขภาพท่านแข็งแรงไหม และท่านมีความคิดเชิงบวกไหม ถ้าท่านเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ แปลว่าท่านมีโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพนักขายแล้ว
แต่ถ้าท่านขาดข้อใดข้อหนึ่งหรือมากกว่า 1 ข้อ ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่มีโอกาสนะครับ ท่านต้องไปทำการบ้านว่าท่านสามารถไปเรียนรู้ ไปหาข้อมูล ไปพัฒนาเปลี่ยนแปลงได้ไหม ถ้าท่านเชื่อว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ ท่านไม่ได้คิดอย่างนักขายมืออาชีพแล้ว ถ้าท่านไม่สามารถนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงได้ โอกาสที่ท่านจะประสบความสำเร็จ เป็นนักขายมืออาชีพคงไม่มีครับ ถึงตรงนี้อาจจะมีบางท่านพูดว่างั้นหยุดไว้ก่อน ขอไปทบทวนก่อนครับ ว่าจะเพิ่มเปลี่ยนแปลงให้มันมีคุณสมบัตินี้ได้ไหม ก็เป็นเรื่องที่ดีครับ
แหล่งที่มา : http://www.tienscnx.com/index.php?mo=3&art=298891
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)